วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สรุปองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับ MIT App Inventor






การใช้งานโปรแกรม App inventor

เครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ชื่อว่า App Inventor  เป็นเครื่องมือตัวใหม่ที่ทำให้ใครก็สามารถพัฒนาแอพพลิเคชันบนมือถือแอนดรอยด์ (Android Phone) ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักพัฒนาโปรแกรมก็สามารถสร้างแอพพลิเคชันได้
          คุณสมบัติของ Android Dev Tool เป็นแบบ Visually Design คือทำให้เราสามารถพัฒนาแอพพลิเคชันบนแอนดรอยด์ได้ โดยไม่ต้อง coding นั้นเอง
ทำไมต้องเป็น App Inventor
App Inventor ช่วยให้คุณสามารถสร้างโปรแกรม Android โดยไม่ต้องเขียนโค้ดโปรแกรมหรือแทนการเขียนโค้ด คุณสามารถมองเห็นวิธีการออกแบบแอพพลิเคชั่นผ่านหน้าจอ กำหนดองค์ประกอบของแอพพลิเคชั่น แล้วระบุลักษณะหรือเหตุการณ์การทำงานของแอพพลิเคชั่น โดยการกำหนดค่าที่ต้องการลงในบล็อก ทำให้คุณสามารถทำอะไรกับโทรศัพท์ Android ด้วยบล็อกได้ เหมือนกันบการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาใดภาษาหนึ่ง เช่น การกำหนดตัวแปร การสร้างเงื่อนไข ดำเนินงานการทำซ้ำและมีเงื่อนไข หรือแม้แต่การคำนวณ  มีบล็อกแม้กระทั่งการจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลและสร้างการพูดคุยกับบริการเว็บ เช่น Twitter หรือ Facebook ได้
          App Inventor เป็นภาษาภาพที่มีอินเตอร์เฟซ แบบลากและวาง แม้กระทั่งคนที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม หรือไม่รู้ภาษาคอมพิวเตอร์ใดเลย ก็พัฒนาแอพพลิเคชั่นของตนเองได้ ทั้งนี้เพราะ
1. App Inventor มีความผิดพลาดในกรณี ไวยากรณ์ หรือ No syntax  เพราะเป็นภาษาบล็อก ที่ไม่จำเป็นต้องจำคำสั่งและพิมพ์รหัสลงไป
2. ใน App Inventor ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของคุณหรือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนและคุณสมบัติทางโปรแกรมต่างๆ มีการจัดระเบียบเป็นหมวดหมู่ สามารถใช้งานได้เพียงแค่ลากและวางเท่านั้น
3. App Inventor เป็นการออกแบบแอพพลิชั่นแบบระดับชั้น จากบนสู่ล่าง เกิดขึ้นตามลำดับที่ผู้ออกแบบได้กำหนดด้วยตนเอง
4. App Inventor มีองค์ประกอบทางโปรแกรมระดับสูง แต่มีความเรียบง่ายในการใช้งาน

สำหรับการเข้าโปรแกรมMIT App Inventor  ต้องใช้อีเมล์ของ GMAIL ล๊อกอินเข้าทำงานได้ที่ http://ai2.appinventor.mit.edu




กด new project เพื่อทำการสร้างโปรเจคใหม่

 เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการออกแบบประกอบด้วยUser Interface   เป็นส่วนที่แสดงบนหน้าจอจะเป็นส่วนที่ใช้ติดต่อระหว่างผู้ใช้แอพกับตัวแอพ

 Layout  เป็นส่วนที่จะมาจัดวางการแสดงผลของหน้าจอว่าจะวางยังไรให้สวยงาม
Media เป็นส่วนของการใช้งานด้านมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเสียง วิดีโอ  ถ่ายรูป อัดเสียงและอีกมากมาย
Drawing and Animation จะเป็นส่วนของการวาดรูปและการทำให้ภาพเกิดการเคลื่อนไหว
Sensors  จะเป็นส่วนที่ใช้ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์

Social เป็นส่วนของของการเขียนโปรแกรมเกี่ยวกับการโทรออก การเรียกดูสมุดโทรศัพท์และส่วนของแชร์ไปยังโปรแกรมสังคมออนไลน์

 Connectivity เป็นส่วนการเรียกใช้บลูทูธ








 ตัวอย่างการเขียนโปรแกรม

  หน้า Designer เป็นส่วนของออกแบบหน้าจอ เช่น ใช้เครือ่งมือUser Interface แล้วเลืออกที่ Image เพื่อแทรกรูปภาพขึ้นมาแสดง



Block คำสั่งลักษณะเหมือนต่อจิกซอว์ จะเรียกว่า Blocks เพื่อให้สั่งงานให้ทำตามที่เราสั่งงานให้แสดงผลออกมา

ผลที่ได้จากการออกแบบ Application บน Android


เเหล่งอ้างอิง

http://wiwatmee.blogspot.com/2012/09/blog-post.html













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น